วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2556

มีฝ้า กระ ทำไงดี


สาวๆ  และหนุ่มๆหลายคน อยากมีผิวเนียนเรียบเหมือนดาราเกาหลี แต่ถ้าภาษาประชดหน่อยเรียกว่าหน้าเนียนเป็น “ตุ๊ดเด็ก” (ขอโทษค่ะที่พูดไม่ค่อยจะสุภาพ) แต่บอกได้เลยถ้ามีใครมาบอกว่าเราผิวเนียนเหมือนเด็ก ทุกคนก็คงแก้มปริแต่หลายคนความฝันมลายหายไป เพราะฝ้ากระที่ขึ้นเอาๆ วันนี้มารู้จักฝ้ากระกันดีกว่าค่ะ
มาทำความรู้จัก “ฝ้า” และ “กระ” กันก่อนดีกว่า
ฝัากระ รักษา, กำจัดฝ้า กระ, สวยด้วยหมอ, diary doctor is me, สิ่งที่คุณไม่รู้ แต่หมออยากให้คุณรู้

ฝ้า และ กระ เป็นบริเวณที่ผิวมีสีออกทำแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดจากผิวบริเวณอื่นๆ ทั้งฝ้าและกระ เกิดขึ้นจากการที่ผิวของเราถูกแสงแดดและด้วยกรรมพันธุ์ของบางคน แสงแดดจะกระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ดสีมากขึ้น ที่ว่าตากแดดแล้วดำขึ้น ก็เพราะร่างกายพยายามสร้างเกราะป้องกันแสงแดดให้ตัวเองนี่แหละค่ะก็เลยผิวดำขึ้น และบางคนก็มีฝ้า และกระขึ้นซึ่งความจริงแล้วเม็ดสีเหล่านี้จะป้องกันผิวของเราจากการทำลายของแสงแดด ไม่ให้ไปทำลายเซลล์ผิวของเราป้องกันเราจากโรคมะเร็งผิวหนัง ความจริงแล้วผิวสีน้ำผึ้งคนไทยเนี๊ยเหมาะกับเมืองไทยที่มีแดดเยอะๆมากค่ะ แต่บังเอิญว่าเราไม่นิยมกัน

ฝ้ากับกระ ต่างกันยังไง
ฝ้าจะมีลักษณะเป็นปื้นของผิวสีเข้มๆช่วงที่ยังเป็นไม่มากอาจไม่ได้สังเกตเห็น เพราะยังไม่เห็นความต่างของผิวมากนักแต่พอสีของฝ้าเข็มขึ้นๆก็จะเห็นว่าเป็นบริเวณกว้างๆบนใบหน้าที่มีสีเข้มกว่าที่อื่นส่วนใหญ่จะเป็นบริเวณที่เป็นโหนกของใบหน้าเพราะว่ามันจะยื่นออกมารับแสงก่อนบริเวณอื่นๆ เช่น โหนกแก้ม หน้าผาก ดั้งจมูกปลายจมูก
ส่วนกระ จะเป็นจุดๆ หรือที่เรียกกันว่า “ตกกระ”เหมือนบนหน้าเด็กฝรั่งหน่ะค่ะ คนไทยก็มีบางส่วนที่เป็น  กระแบบเด็กฝรั่งเรียกว่า “กระแดด” (ไม่ใช่ “แดะ”นะคะ อย่าออกเสียผิด) เป็นกระที่ไม่นูน ส่วนกระอีกแบบจะนูนขึ้น คล้ายๆไฝ แต่ว่าเป็นมากบริเวณที่โดนแดดเยอะเช่น ใบหน้า หน้าอก แขน อันนี้จะเป็นเนื้อนูนๆขึ้นมาสีดำๆ หรือสีน้ำตาลเข้มเรียกว่า “กระเนื้อ”ค่ะ

อยากกำจัดฝ้า และกระ ต้องทำไง
                ก่อนอื่นต้องเตือนทุกท่านไว้ก่อนว่าฝ้า และกระ เป็นสิ่งที่กำจัดค่อนข้างยาก ใช้เวลานาน และถึงกำจัดไปแล้วก็มีโอกาสเป็นขึ้นมาอีกเมื่อโดนแดดกระตุ้น เพราะคนที่เป็นฝ้ากระมักมีการตอบสนองของผิวต่อแสงแดดไวกว่าคนอื่น มีฝ้า มีกระขึ้นได้ง่ายตลอดดังนั้นบางครั้งเมื่อตัดสินใจที่จะกำจัดฝ้ากระแม้จะต้องจ่ายเงินซื้อเทคโนโลยีที่แพงที่สุด แต่ก็อาจไม่ได้ผล(เฮ่อ....น่าเศร้าใจจริงๆค่ะ)
                อันดับหนึ่งเลยคือการป้องกันไม่ให้ฝ้ากระขึ้นเพิ่ม หรืออย่างน้อยก็ให้ขึ้นน้อยลง แน่นอนฝ้ากระไม่เกิดขึ้น ถ้าไม่โดนแดดค่ะ พยายามหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดๆ และใช้ครีมกันแดด SPFอย่างน้อย15 ขึ้นไป ถ้าจำเป็นต้องออกแดด มีเครื่องป้องกันอย่างร่มหรือหมวกปีกกว้าง ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นเหมือนกัน 

                การรักษาที่นิยมมากคือการใช้ยาทาทาเช้า ทาเย็น  มีมากมายตามท้องตลาดซึ่งส่วนใหญ่ก็จะผสมๆกันระหว่างยาหลายๆตัว ตัวอย่างยาก็มีดังนี้นะคะ

-Hydroquinone ยาตัวนี้ทำให้ระคายเคืองผิวได้มาก และค่อนข้างอันตรายควรใช้ในความดูแลของแพทย์นะคะ

-Tretinoin อันนี้หลายคนคุ้นเคยในฐานะยารักษาสิวความจริงก็รักษาฝ้าได้ แต่ว่าใช้เวลานาน อย่างน้อยๆก็ 6 เดือนถึงจะเห็นผลเลยนะคะ

-Azelaic acid อันนี้ก็ได้ผลดี แต่ต้องใช้เวลานานเหมือนกันค่ะ

-Whitening  agentเช่น arbutin, licorice, mulberry extract, vitamin c (คิดว่าหลายคนคุ้นชื่อเหล่านี้จากโฆษณาโลชั่นทางทีวี จริงมั๊ยค่ะ) สารเหล่านี้ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด เรื่องประสิทธิภาพการรักษาฝ้าแต่ส่วนใหญ่ก็ใช้กัน และได้ผล แต่ต้องใช้นานหน่อยข้อดีของสารเหล่านี้คือปลอดภัยค่ะ

การรักษาต่อมาก็คือเหล่า treatment ตามคลินิกผิวหนังและความงาม เช่น Ionto, Phono, Magnito ทั้งหมดนี้เป็นเทคนิคที่ช่วยผลักยาเข้าสู่ผิวผลการรักษาก็ยังไม่ค่อยแน่ชัดนะคะ แต่ก็พบว่าช่วยให้ฝ้ากระหายเร็วขึ้นแต่ก็ต้องรักษาร่วมกับการใช้ยาทาไปด้วยค่ะ

 อันสุดท้ายที่ฮิตและราคาแพง คือเลเซอร์ค่ะ เลเซอร์ช่วยกำจัดเม็ดสีได้ส่วนใหญ่กับกระจะได้ผลดีกว่าฝ้า แต่เลเซอร์มีโอกาสทำให้เกิดผิวสีเข้มขึ้นกว่าเดิมหรือเป็นสีอ่อนกว่าผิวปกติได้ เป็นผลข้างเคียงของการรักษาที่เกิดขึ้นได้ค่ะและข้อเสียอีกข้อของเลเซอร์คือ ราคาแพง และต้องทำหลายครั้งค่ะ ถึงจะเห็นผลแต่อย่างที่บอก ไม่การันตีนะคะ ว่าจะเป็นซ้ำอีกถ้าไปถูกแดดมากๆ  เอาเป็นว่าใครมีกำลังทรัพย์อย่างลองก็ไม่มีปัญหาค่ะ ลองปรึกษาแพทย์ผิวหนังดูนะคะ

วันนี้ขอจบเรื่องความงามเพียงเท่านี้ขอให้ทุกคนดูดีจากภายในค่ะ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คิดยังไง บอกหมอได้ค่ะ