ได้ชื่อว่ามะเร็ง ก็มีความน่าเกรงขามอยู่ในตัวแล้ว ทุกคนรู้ว่ามะเร็งโหดร้าย ทรมาน และอาจถึงแก่ชีวิต ไม่มีใครอยากเป็นโรคมะเร็ง และหนึ่งในโรคมะเร็งที่พบบ่อยในผู้หญิงคือ "มะเร็งปากมดลูก" วันนี้ทุกคนรู้แล้วหรือยังว่ามะเร็งชนิดนี้มีวัคซีนป้องกันแล้ว!!!
ก่อนอื่นขอเล่าคร่าวๆเกี่ยวกับสิ่งที่มนุษย์เราค้นพบเกี่ยวกับมะเร็งปากมดลูกก่อน ถ้าเราไปถามหมอว่ามะเร็งส่วนใหญ่เกิดจากอะไรก็จะได้คำตอบว่า มะเร็งส่วนใหญ่ไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด มีปัจจัยมากมายที่มีผลต่อการเกิดมะเร็ง บอกได้ไม่ชัดเจน แต่สำหรับโรคมะเร็งปากมดลูก เราค้นพบว่ามันเป็นมะเร็งที่เกิดจากการติดเชื้อ!!!
เชื้อที่ว่านี้เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ชื่อว่า HPV (ไม่ใช่ HIV นะคะ) ไวรัสชนิดนี้มีหลายสายพันธุ์ ส่วนใหญ่ที่ก่อให้เกิดมะเร็งจะเป็นสายพันธุ์ 16 กับ 18 ไวรัสชนิดนี้ติดทางเพศสัมพันธ์ โดยทีไวรัส HPV สายพันธุ์ 16 กับ 18 นี้เวลาอยู่กับผู้ชายจะไม่ก่อโรค(ไม่ยุตธรรมเลย) แต่พอมาอยู่กับผู้หญิงแล้ว มันจะชอบติดที่ปากมดลูก ทำให้เกิดเซลล์ผิดปกติ โดยส่วนใหญ่พบว่าก็ไม่ได้กลายเป็นมะเร็งหรอกนะคะ แต่จะมีบางส่วนที่หลังจากนั้นก็จะค่อยๆก่อตัวเป็นมะเร็ง ซึ่งกว่าจะถึงขั้นนั้นก็ผ่านไปอีกเป็นสิบๆปี เรียกว่าติดเชือวันนี้กว่าจะเป็นก็อีกหลายปีค่ะ พอรู้สาเหตุแล้ว ก็นับว่าเป็นข่าวดี!! ดียังไง? ก็เพราะว่า ถ้าสาเหตุมันเป็นจากการติดเชื้อ เราก็สร้าง"วัคซีน" ป้องกันมันซะเลย เหมือนวัคซีนป้องกันบาดทะยัก, พิษสุนัขบ้า ฯลฯที่ใช้กันมาหลายสิบปีแล้ว
สรุปแล้ว วัคซีนที่ว่านี้ก็คือวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ HPV ซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกนั้นเอง ถ้าไม่ติดเชื้อ ก็ไม่เป็นมะเร็งปากมดลูกไง ว่าแล้วสาวๆก็คงเริ่มสนใจ และสำหรับหนุ่มๆก็ควรศึกษาไว้สำหรับบอกผู้หญิงที่เรารักนะคะ (ถึงไม่รักผู้หญิง ก็ไว้บอกเพื่อนสาวละกันค่ะ 555)
จะฉีดได้ตอนไหน
บางคนก็สงสัย เพราะว่าอย่างวัคซีนของเด็กๆ ก็มีเวลาให้เริ่มฉีด และระยะห่างที่เหมาะสมในการฉีดแต่ละเข็ม สำหรับวัคซีนตัวนี้ ในต่างประเทศให้ฉีดกันตั้งแต่เริ่มเป็นสาว คืออายุประมาณ 11-13 ปี ความจริงแล้ว หลักการคือควรฉีดยาให้มีภูมิคุ้มกัน ก่อนการมีเพศสัมพันธ์ เพราะว่าไวรัส HPV นี้ติดต่อกันทางเพศสัมพันธุ์อย่างที่บอกไป ถ้าเกิดว่าใครที่ตอนนี้อายุเกิน 11-13 ปี แต่ไม่เคยมีเพศสัมพันธุ์ ก็ไปฉีดได้เลยค่ะ ต้องฉีดทั้งหมด 3 เข็ม โดยฉีดเข็มที่ 1 แล้วเข็มต่อมาที่ 3 เดือน และ 6 เดือน
แต่หลายคนที่มีคู่แล้วก็อย่าพึ่งเสียใจไปนะคะ ถามว่าจะฉีดได้มั๊ย ก็ฉีดได้ค่ะ เพียงแต่ว่าประสิทธิภาพการป้องกันการติดเชื้อจะลดลงเท่านั้นเอง
ได้ผลดีมั๊ย
เนื่องจากวัคซีนนี้ยังใหม่อยู่ เท่าที่มีการศึกษาพบว่ายังป้องกันได้ไม่ 100% เพียงแต่คนที่ฉีดจะมีโอกาสติดเชื้อน้อยลงค่ะ ยังไงก็ตาม แม้เราจะฉีดวัคซีนแล้วก็ยังคงต้องไปตรวจมะเร็งปากมดลูกประจำทุกปีเป็นปกติค่ะ
ตรวจมะเร็งปากมดลูกคืออะไร ?? ตรวจทำไม??
อันนี้สำหรับคนที่ยังไม่รู้นะคะ บางคนก็เรียกการตรวจมะเร็งปากมดลูกว่าเป็นการ"ตรวจภายใน" ซึ่งแน่นอนว่าผู้หญิงเกือบทุกคนกลัว ยิ่งเป็นสาวๆอายุน้อยๆก็คงอายเกินกว่าจะไปตรวจ
เอาตามตำรา เราแนะนำให้ผู้หญิงทุกคนตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูกตั้งแต่ 3 ปีแรก หลังมีเพศสัมพันธ์ และตรวจเป็นประจำทุกปี หรือถ้าปกติติดกัน 3 ปี ก็สามารถห่างเป็นทุก 3 ปีได้ วิธีการตรวจอันนี้ก็ยอมรับว่าเป็นการตรวจภายในจริง ต้องใส่เครื่องมือในช่องคลอดจริง แต่ลองฟังเรื่องมะเร็งปากมดลูกกันก่อน เผื่อว่าจะทำให้หลายคนเปลี่ยนใจ
มะเร็งปากมดลูกเป็นยังไง??
มะเร็งปากมดลูกเริ่มจากเป็นเนื้องอกที่ปากมดลูก แล้วค่อยๆลุกลามไปตามผนังช่องคลอด มดลูก รังไข่ และเข้าไปในช่องท้อง อาจลุกลามไปถึงลำไส้ และอวัยวะอื่นๆได้ สุดท้ายถ้าลุกลามไปตามกระแสเลือดก็สามารถไปได้ทุกที่ในร่างกายไม่ว่าจะเป็น ตับ ไต สมอง ปอด ฯลฯ เดิมทีแล้วมะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่คร่าชีวิตคนไทยไปมาก เนื่องจากเรามักตรวจไม่เจออาการจนกระทั่งมันเป็นมากแล้ว ส่วนใหญ่กว่าจะมาพบแพทย์ ก็เพราะมีอาการจากตัวมะเร็งที่ลุกลามไปตามอวัยวะต่างๆแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายมาก หากเราตรวจพบมะเร็งมดลูกตั้งแต่เนิ่นๆ เราสามารถ"รักษาให้หาย" ได้เลยทีเดียว (มะเร็งที่รักษาจนหายได้ มีไม่มากนะเออ")
การตรวจมะเร็งปากมดลูก ตั้งแต่ยังไม่มีอาการจึงเป็นสิ่งที่ช่วยรักษาชีวิตของคนไข้จำนวนมากไว้ได้ อย่างที่บอกถ้าหากว่าเรามาตรวจเจอตั้งแต่แรกๆ ก็สามารถรักษาให้หายได้ ข่าวร้ายว่า"คุณเป็นมะเร็งระยะแรก" ยังไงก็มีความหวังกว่า "คุณเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย" นะคะจริงมั๊ย แล้วถ้าจะบอกว่า "อายหมอ" ก็อยากให้ทราบว่าปัจจุบันมีผู้หญิงนับพันมาตรวจมะเร็งปากมดลูก พวกเขาทำได้ เราก็ทำได้ค่ะ
สรุปแล้วอยากจะชวนผู้หญิงทุกคนไปฉีดวัคซีน และมาตรวจมะเร็งปากมดลูกกันนะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
คิดยังไง บอกหมอได้ค่ะ