วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2556

มะเร็งปากมดลูก มีวัคซีนป้องกัน!!!

ได้ชื่อว่ามะเร็ง ก็มีความน่าเกรงขามอยู่ในตัวแล้ว ทุกคนรู้ว่ามะเร็งโหดร้าย ทรมาน และอาจถึงแก่ชีวิต ไม่มีใครอยากเป็นโรคมะเร็ง และหนึ่งในโรคมะเร็งที่พบบ่อยในผู้หญิงคือ "มะเร็งปากมดลูก" วันนี้ทุกคนรู้แล้วหรือยังว่ามะเร็งชนิดนี้มีวัคซีนป้องกันแล้ว!!!

ก่อนอื่นขอเล่าคร่าวๆเกี่ยวกับสิ่งที่มนุษย์เราค้นพบเกี่ยวกับมะเร็งปากมดลูกก่อน ถ้าเราไปถามหมอว่ามะเร็งส่วนใหญ่เกิดจากอะไรก็จะได้คำตอบว่า มะเร็งส่วนใหญ่ไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด มีปัจจัยมากมายที่มีผลต่อการเกิดมะเร็ง บอกได้ไม่ชัดเจน แต่สำหรับโรคมะเร็งปากมดลูก เราค้นพบว่ามันเป็นมะเร็งที่เกิดจากการติดเชื้อ!!!
มะเร็งปากมดลูก, วัคซีนมะเร็งปากมดลูก, ดูแลสุขภาพ, diary doctor is me, สิ่งที่คุณไม่รู้ แต่หมออยากให้คุณรู้


เชื้อที่ว่านี้เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ชื่อว่า HPV (ไม่ใช่ HIV นะคะ) ไวรัสชนิดนี้มีหลายสายพันธุ์ ส่วนใหญ่ที่ก่อให้เกิดมะเร็งจะเป็นสายพันธุ์ 16 กับ 18 ไวรัสชนิดนี้ติดทางเพศสัมพันธ์ โดยทีไวรัส HPV สายพันธุ์ 16 กับ 18 นี้เวลาอยู่กับผู้ชายจะไม่ก่อโรค(ไม่ยุตธรรมเลย) แต่พอมาอยู่กับผู้หญิงแล้ว มันจะชอบติดที่ปากมดลูก ทำให้เกิดเซลล์ผิดปกติ โดยส่วนใหญ่พบว่าก็ไม่ได้กลายเป็นมะเร็งหรอกนะคะ แต่จะมีบางส่วนที่หลังจากนั้นก็จะค่อยๆก่อตัวเป็นมะเร็ง ซึ่งกว่าจะถึงขั้นนั้นก็ผ่านไปอีกเป็นสิบๆปี เรียกว่าติดเชือวันนี้กว่าจะเป็นก็อีกหลายปีค่ะ พอรู้สาเหตุแล้ว ก็นับว่าเป็นข่าวดี!! ดียังไง? ก็เพราะว่า ถ้าสาเหตุมันเป็นจากการติดเชื้อ เราก็สร้าง"วัคซีน" ป้องกันมันซะเลย เหมือนวัคซีนป้องกันบาดทะยัก, พิษสุนัขบ้า ฯลฯที่ใช้กันมาหลายสิบปีแล้ว

สรุปแล้ว วัคซีนที่ว่านี้ก็คือวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ HPV ซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกนั้นเอง ถ้าไม่ติดเชื้อ ก็ไม่เป็นมะเร็งปากมดลูกไง ว่าแล้วสาวๆก็คงเริ่มสนใจ และสำหรับหนุ่มๆก็ควรศึกษาไว้สำหรับบอกผู้หญิงที่เรารักนะคะ (ถึงไม่รักผู้หญิง ก็ไว้บอกเพื่อนสาวละกันค่ะ 555)

จะฉีดได้ตอนไหน
บางคนก็สงสัย เพราะว่าอย่างวัคซีนของเด็กๆ ก็มีเวลาให้เริ่มฉีด และระยะห่างที่เหมาะสมในการฉีดแต่ละเข็ม สำหรับวัคซีนตัวนี้ ในต่างประเทศให้ฉีดกันตั้งแต่เริ่มเป็นสาว คืออายุประมาณ 11-13 ปี ความจริงแล้ว หลักการคือควรฉีดยาให้มีภูมิคุ้มกัน ก่อนการมีเพศสัมพันธ์ เพราะว่าไวรัส HPV นี้ติดต่อกันทางเพศสัมพันธุ์อย่างที่บอกไป ถ้าเกิดว่าใครที่ตอนนี้อายุเกิน 11-13 ปี แต่ไม่เคยมีเพศสัมพันธุ์ ก็ไปฉีดได้เลยค่ะ  ต้องฉีดทั้งหมด 3 เข็ม โดยฉีดเข็มที่ 1 แล้วเข็มต่อมาที่ 3 เดือน และ 6 เดือน

แต่หลายคนที่มีคู่แล้วก็อย่าพึ่งเสียใจไปนะคะ ถามว่าจะฉีดได้มั๊ย ก็ฉีดได้ค่ะ เพียงแต่ว่าประสิทธิภาพการป้องกันการติดเชื้อจะลดลงเท่านั้นเอง

ได้ผลดีมั๊ย
เนื่องจากวัคซีนนี้ยังใหม่อยู่ เท่าที่มีการศึกษาพบว่ายังป้องกันได้ไม่ 100% เพียงแต่คนที่ฉีดจะมีโอกาสติดเชื้อน้อยลงค่ะ ยังไงก็ตาม แม้เราจะฉีดวัคซีนแล้วก็ยังคงต้องไปตรวจมะเร็งปากมดลูกประจำทุกปีเป็นปกติค่ะ

ตรวจมะเร็งปากมดลูกคืออะไร ?? ตรวจทำไม??
อันนี้สำหรับคนที่ยังไม่รู้นะคะ บางคนก็เรียกการตรวจมะเร็งปากมดลูกว่าเป็นการ"ตรวจภายใน" ซึ่งแน่นอนว่าผู้หญิงเกือบทุกคนกลัว ยิ่งเป็นสาวๆอายุน้อยๆก็คงอายเกินกว่าจะไปตรวจ

เอาตามตำรา เราแนะนำให้ผู้หญิงทุกคนตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูกตั้งแต่ 3 ปีแรก หลังมีเพศสัมพันธ์ และตรวจเป็นประจำทุกปี หรือถ้าปกติติดกัน 3 ปี ก็สามารถห่างเป็นทุก 3 ปีได้ วิธีการตรวจอันนี้ก็ยอมรับว่าเป็นการตรวจภายในจริง ต้องใส่เครื่องมือในช่องคลอดจริง แต่ลองฟังเรื่องมะเร็งปากมดลูกกันก่อน เผื่อว่าจะทำให้หลายคนเปลี่ยนใจ

มะเร็งปากมดลูกเป็นยังไง??
มะเร็งปากมดลูกเริ่มจากเป็นเนื้องอกที่ปากมดลูก แล้วค่อยๆลุกลามไปตามผนังช่องคลอด มดลูก รังไข่ และเข้าไปในช่องท้อง อาจลุกลามไปถึงลำไส้ และอวัยวะอื่นๆได้ สุดท้ายถ้าลุกลามไปตามกระแสเลือดก็สามารถไปได้ทุกที่ในร่างกายไม่ว่าจะเป็น ตับ ไต สมอง ปอด ฯลฯ เดิมทีแล้วมะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่คร่าชีวิตคนไทยไปมาก เนื่องจากเรามักตรวจไม่เจออาการจนกระทั่งมันเป็นมากแล้ว ส่วนใหญ่กว่าจะมาพบแพทย์ ก็เพราะมีอาการจากตัวมะเร็งที่ลุกลามไปตามอวัยวะต่างๆแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายมาก หากเราตรวจพบมะเร็งมดลูกตั้งแต่เนิ่นๆ เราสามารถ"รักษาให้หาย" ได้เลยทีเดียว (มะเร็งที่รักษาจนหายได้ มีไม่มากนะเออ")

การตรวจมะเร็งปากมดลูก ตั้งแต่ยังไม่มีอาการจึงเป็นสิ่งที่ช่วยรักษาชีวิตของคนไข้จำนวนมากไว้ได้ อย่างที่บอกถ้าหากว่าเรามาตรวจเจอตั้งแต่แรกๆ ก็สามารถรักษาให้หายได้ ข่าวร้ายว่า"คุณเป็นมะเร็งระยะแรก" ยังไงก็มีความหวังกว่า "คุณเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย" นะคะจริงมั๊ย แล้วถ้าจะบอกว่า "อายหมอ" ก็อยากให้ทราบว่าปัจจุบันมีผู้หญิงนับพันมาตรวจมะเร็งปากมดลูก พวกเขาทำได้ เราก็ทำได้ค่ะ

สรุปแล้วอยากจะชวนผู้หญิงทุกคนไปฉีดวัคซีน และมาตรวจมะเร็งปากมดลูกกันนะคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คิดยังไง บอกหมอได้ค่ะ