วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ต้อหิน ต้อเนื้อ ต้อลม ต้อกระจก งงจริงๆ

พูดถึงดวงตา ก็เป็นสิ่งที่หลายๆคนมองข้าม ทั้งๆที่ใช้กันอยู่ทุกวัน ดูเหมือนว่าสิ่งที่หนุ่มๆ สาวๆจะสนใจกว่าคือ เปลือกตา(อยากได้ตาสองชั้น) และตาดำที่ต้องใส่ big eye มาแข่งกันแบ๊วอยู่ทุกๆวัน เอาเถอะค่ะ เข้าใจว่าผู้หญิงอย่าหยุดสวย และผู้ชายอย่าหยุดหล่อ วันนี้จะขอมาพูดถึงเรื่องของ "ต้อ" ซึ่งมีหลายชื่อมากมาย อยากให้ทุกคนได้รู้จักโรคของตามากขึ้นค่ะ

สำหรับคำว่า "ต้อ" เอง ก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกันค่ะ ว่ามันแปลว่าอะไร(ใครมีความรู้ก็ชี้แนะกันได้นะคะ) แต่ว่า ต้อหิน ต้อเนื้อ ต้อลม และต้อกระจก ล้วนแล้วแต่เป็นโรคของตาทั้งนั้นค่ะ แต่ละอันจะต่างกันยังไง มาดูกันค่ะ

ต้อหิน, ต้อเนื้อ, ต้อลม, ต้อกระจก, โรคต้อ, โรคตา
ส่วนประกอบของลูกตา(ฉบับที่คนทั่วไปควรรู้นะคะ)
ก่อนอื่นขอเล่าก่อนว่า "ลูกตา" ที่วาดกันง่ายๆเหมือนลูกกอล์ฟ ที่มีวงกลมสีดำแปะอยู่เนี๊ย ความจริงแล้วเป็นอวัยวะที่ซับซ้อน และมีความบอบบางมาก มองจากด้านนอกง่ายๆก็มี "ตาขาว" กับ "ตาดำ" ใช่มั๊ยค่ะ

ตาขาว จะมีเส้นเลือดมาเลี้ยง เวลาที่ตาขาวอักเสบติดเชื้อ หรือเกิดการระคายเคืองขึ้นก็จะมีสีแดงขึ้นมา เกิดจากเส้นเลือดที่ตาขาวขยายตัว ความจริงแล้วตาขาวถูกคลุมด้วยเยื่อบางๆ ที่เรียกว่า "เยื่อบุตา" ก็คือส่วนที่เราเห็นเส้นเลือดชัดๆนี่แหละค่ะ

ส่วนตาดำ ชั้นนอกสุดเป็นกระจกใสๆ เหมือนเลนส์แว่นตาของเรา เรียกว่า "กระจกตา" ถ้าลองจ้องตาตัวเองจะเห็นว่าในตาดำ จะมีตรงกลางที่ดำกว่าคือ "รูม่านตา" ส่วนสีอ่อนกว่าที่ล้อมรอบรูม่านตาคือ "ม่านตา" ก็คือส่วนที่ตาของฝรั่งเป็นสีฟ้า สีเขียว แต่ของคนเอเชียเป็นสีน้ำตาลนั่นแหละค่ะ ความจริงแล้วรูม่านตาเป็นตำแหน่งของ "เลนส์ตา" (อย่างสับสนกับกระจกตานะคะ) แล้วหลังจากเลนส์ตาไปจะเป็นพื้นที่โล่งๆในลูกตาของเราซึ่งมีวุ้นตาอยู่ และผิวด้านในของลูกตาเป็นจอประสาทตามีหน้าที่รับภาพที่เรามองเห็นค่ะ

ต้อลม
มารู้จักกับต้อลมกันก่อน ต้อลมเป็นส่วนที่เกิดขึ้นที่ "เยื่อบุตา" ก็คือตรงตาขาวของเรา ลักษณะคล้ายๆติ่งเนื้อสีชมพูๆ เกิดขึ้นที่ตาขาวของเรา ส่วนใหญ่เราจะเห็นในคนที่อายุมากหน่อย อย่างน้อยๆก็เกือบ 30 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่เกิดจากการที่ตาของเราต้องโดนลม (ก็เลยเรียกว่าต้อลม) โดนฝุ่นมากๆ ก็เลยจะเห็นมากในชาวภูธรที่ทำไร่ทำนา หรือขี่มอเตอร์ไซค์ แล้วหน้าประทะกับลมตลอดเวลาค่ะ ต้อลมไม่อันตราย เพียงแต่อาจทำให้เคืองตาได้บางครั้งค่ะ

ต้อเนื้อ
ต้อเนื้อก็ลักษณะคล้ายๆต้อลมนะคะ เพียงแต่ว่าเจ้าติ่งเนื้อชมพูๆเนี๊ย มันยื่นยาวจนเข้ามาในตาดำ อันนี้ก็ไม่ได้อันตรายเหมือนกัน เพียงแต่ว่าถ้าบังมาถึงรูม่านตา อาจจะบดบังการมองเห็นได้ และทำให้เกิดสายตาเอียงได้ ส่วนใหญ่ถ้าเป็นมากก็ต้องไปลอกออก ตอนลอกก็สบายๆค่ะ ไม่ต้องถึงกับนอนโรงพยาบาล คุณหมอฉีดยาชา แล้วลอก ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เสร็จค่ะ

ต้อกระจก
อันนี้เป็นเกิดกับ "เลนส์ตา" ก็คือตรงกลางของตาดำนั่นเอง ตอนเด็กๆ ตรงกลางของตาดำเนี๊ยจะเป็นสีดำสนิท เพราะว่าเลนส์ตาใส มองเห็นข้างในเป็นมืดๆ แต่พออายุมากขึ้น ลองไปสังเกตตาของคุณตาคุณยายได้ ตรงกลางตาดำจะเป็นสีออกขาวๆ นั่นคือ "ต้อกระจก" ตอนนี้บางคนมองตาตัวเองอาจจะเห็นว่าไม่ได้เป็นสีดำสนิทแล้ว โรคนี้เป็นกัน"ทุกคน"ค่ะ (ถ้าอายุมากพอ) เป็นสิ่งที่เสื่อมสภาพตามอายุ จะมีมากมีน้อยก็แล้วแต่คนกันไป ถ้าเป็นมากก็อาจจะทำให้มองไม่เห็น สายตาฝ้าฟางไปได้ แต่ในรายที่เป็นมากๆอาจจะต้องผ่าตัดออก เพราะว่าอาจทำให้เกิด "ต้อหิน" ได้ถ้าเกิดปล่อยทิ้งไว้

ต้อหิน
ต้อหินเป็นโรคของความดันในลูกตาสูง (ไม่เกี่ยวกับความดันเลือดสูงนะคะ) ซึ่งมีสาเหตุได้หลายอย่างมาก    เอาเป็นว่าทำให้เกิดความดันน้ำในลูกตาสูงผิดปกติ ทีนี้ถ้าในของลูกตาเป็นจอประสาทตา และมีเส้นประสาทตาเล็กๆมากมาย ทำหน้าที่รับภาพ เหมือนกับ Pixel บนหน้าจอคอมพิวเตอร์นี่แหล่ะค่ะ เวลาที่ความดันในลูกตาสูงก็จะไปกดเส้นประสาทเหล่านั้น ทำให้เสื่อมสภาพและทำงานไม่ได้ อาการคือจะมองเห็นแคบลงเรื่อยๆค่ะ คือภาพเต็มจอที่เราเห็นตอนนี้ ถ้าเป็นต้อกระจกจะเห็นภาพแคบลงๆ เรื่อยๆ จนเห็นเฉพาะตรงกลางค่ะ การรักษาก็มีทั้งการกินยา หยอดยา และผ่าตัด เอาเป็นว่าถ้ามีอาการเช่น ปวดตาข้างเดียว ปวดศีรษะมาก กินยายังไงก็ไม่หาย มองเห็นภาพแคบลง ชอบเดินเตะตรงโน้นตรงนี้ หรือขับรถชนเพราะมองไม่เห็นรถข้างๆบ่อยๆ ควรไปตรวจตากับจักษุแพทย์นะคะ

ขอให้ทุกคนเห็นโลกสดใสนานๆค่ะ