วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

โรคหัวใจขาดเลือด(แต่ไม่ขาดรัก)

หลายคนคงจะพอรู้อยู่บ้างว่าโรคแต่ละโรคมีความรีบด่วนเร่งด่วนไม่เท่ากัน บางโรคทนๆไปก็หายเองได้ บางโรคเป็นมากๆค่อยรักษาก็ได้ แต่บางโรคแม้อาการยังไม่มากช่วงแรกแต่ทรุดลงเร็ว บางโรคการไปพบแพทย์เร็ว หมายถึงโอกาสหายที่มากขึ้น และบางโรคอาการอาจจะมาก แต่การล่าช้าแม้ไม่กี่นาทีก็อาจถึงชีวิตได้ วันนี้จะมาพูดถึงโรคๆหนึ่งที่ไม่ว่าใครก็ตามที่เป็น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที ถ้าเราเป็นไม่มากก็อาจไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นมาก โรคนี้สามารถทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ทีเดียว โรคที่พูดถึงนี้คือ โรค"หัวใจขาดเลือด"

ทำไมหัวใจถึงขาดเลือด
ปกติหัวใจของเรามีเส้นเลือดใหญ่ๆมาหล่อเลี้ยงอยู่ 3 เส้น แต่ถ้ามีอะไรมาอุดตันก็จะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดได้ สิ่งที่มีอุดส่วนใหญ่ก็จะเป็นเหล่าไขมันที่มาเกาะตามผนังเส้นเลือด ถามว่าแล้วไขมันนี้มาจากไหน คำตอบคือสามารถมีได้ในทุกๆคน เมื่อเราอายุมากขึ้น เพียงแต่ว่าจะมากจะน้อย ก็ขึ้นกับแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน การออกกำลังกาย โรคประจำตัวอย่างเบาหวาน ไขมัน ความดันเลือดสูง ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดไขมันพอกตามผนังเส้นเลือดมากขึ้นทั้งนั้น และยิ่งถ้าเป็นผนังเส้นเลือดที่หัวใจแล้้ว ก็ยิ่งมีโอกาสเป็นโรคหัวใจขาดเลือดเพิ่มขึ้น

ลองนึกถึงกล้ามเนื้อก้อนหนึ่งในร่างกาย ขนาดใหญ่เท่ากำปั้น แต่มีหน้าที่บีบส่งเลือดให้ไปเลี้ยงทั่วร่างกาย กล้ามเนื้อนี้ทำงานทุกวัน ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง (อย่างกับ เซเว่นอีเลฟเว่น) ไม่เคยหยุดพัก ไม่ใช่ตั้งแต่คุณเกิดนะ ความจริงมันเริ่มทำงานตั้งแต่คุณอยู่ในท้องของคุณแม่ด้วยซ้ำไป ดังนั้นมันเป็นกล้ามเนื้อที่ต้องการพลังงานตลอดเวลา เกิดโดนตัดท่อส่งอาหาร ซึ่งก็คือหลอดเลือดของเรา กล้ามเนื้อบางส่วนนั้นจะตายไปภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง ทำให้การบีบตัวของมันแย่ลง และถ้ามันเป็นมากพอหัวใจของเราก็อาจจะหยุดเต้นไปเลยก็ได้ (เริ่มฟังดูน่ากลัวใช่มั๊ยค่ะ)

อาการของกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เป็นยังไง
อาการหลักๆคืออาการเจ็บหน้าอก อาจจะตรงกลาง หรือค่อนไปทางด้านซ้ายก็ได้ แต่ลักษณะอาการเจ็บจะเป็นอาการปวดแบบแน่นๆ "แน่นเหมือนมีอะไรมาทับไว้" (ถ้าเป็นเจ็บแบบจี๊ดๆ หรือบีบๆ หรือเจ็บตามการหายใจ มักจะเป็นอาการของโรคอื่นมากกว่าค่ะ) และมักจะร้าวไปตามแขนข้างซ้าย หรือกรามด้านซ้าย โดยทั่วไปมักจะเป็นสัมพันธ์กับการออกกำลัง หรือทำงาน แต่บางคนก็อาจเป็นขึ้นมาเฉยๆทั้งที่นั่งพักอยู่ก็มี

อาการของกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดมีความรุนแรง 3 ระดับ แบ่งตามอาการคร่าวๆก็คือ

ระดับเบาสุด อันนี้มีการตีบของเส้นเลือดอยู่ แต่โชคดีที่เป็นเส้นเลือดปลายๆ ที่เลี้ยงหัวใจบริเวณเล็กๆ อาจมีการตายของกล้ามเนื้อหัวใจบางส่วน แต่เป็นส่วนน้อย ระดับนี้เหมือนคนถูกลดเงินเดือน ยังพออยู่ได้ แต่ไม่ได้อิ่มหนำสำราญ มีความสุขแบบที่เคยมีในกลุ่มนี้จะมีอาการเจ็บหน้าอกเฉพาะเวลาที่ต้องทำงานหนักๆ หรือมีความเครียด บางคนบอกได้ว่าเดินขึ้นบันไดหนึ่งชั้นก็จะเจ็บหน้าอก หรือเหนื่อยมาก ต้องพักระหว่างชั้น เป็นต้น แต่ในภาวะปกติก็ยังปกติสบายดีอยู่ กลุ่มนี้ควรไปพบแพทย์ แต่ไม่ได้เร่งด่วนมากนักค่ะ คนส่วนใหญ่จะพลาดอาการนี้ไป เพราะว่าถ้าอาการนี้เกิดกับคนแก่ ก็ชอบคิดว่า "แก่แล้วก็เหนื่อยง่ายแบบนี้ เป็นเรื่องธรรมดา" 

ระดับกลาง อันนี้มีกล้ามเนื้อหัวใจตายเป็นบริเวณที่ใหญ่ขึ้น เหมือนคนตกงานไม่มีเงินเดือน ก็จะเริ่มไม่มีเงินที่จะใช้จ่าย อาการก็จะเจ็บหน้าอกในลักษณะที่ได้กล่าวมา แต่ว่าเป็นแม้ว่าจะนั่งพัก ก็ยังไม่หาย หนำซ้ำเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนใหญ่คนไข้กลุ่มนี้จะไปพบแพทย์ค่อนข้างเร็ว เพราะรู้สึกว่าอยู่ไม่ได้ ปวดมาก

ระดับรุนแรง กลุ่มนี้เหมือนตกงาน และยังมีหนี้สินด้วย  (เปรียบเทียบไม่ค่อยเป็นมงคล แต่ก็เห็นภาพดีนะคะ อย่าถือสากันเลยค่ะ) คือมีการตีบของเส้นเลือดอาจจะตั้งแต่ต้นทาง หรือเป็นหลายๆเส้นพร้อมกัน ทำให้กล้ามเนื้อขาดเลือดเป็นบริเวณกว้าง ถ้ายังมีสติบอกได้ จะมีอาการเจ็บหน้าอกอย่างมาก จนทนไม่ไหว หอบเหนื่อย หายใจไม่ทัน แต่บางคนอาจหมดสตินิ่งไปเฉยๆ หรือเสียชีวิตทันทีก็มี

แล้วต้องทำยังไง
ง่ายมากค่ะ ถ้าไม่มั่นใจให้รีบไปพบแพทย์ทันที ความจริงแล้วก็มีอยู่หลายโรคที่มีอาการเจ็บหน้าอกได้เช่น โรคกระเพาะ โรคกระดูกอ่อนซี่โครงอักเสบ โรคติดเชื้อปอด หรือปวดกล้ามเนื้อทั่วๆไป แต่อาการเจ็บจะเป็นคนละแบบ คือมักจะเจ็บจี๊ดๆ หรือบีบๆ หรือเจ็บเวลาหายใจเข้ามากๆ ไม่เหมือนกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดที่เจ็บเหมือนมีอะไรมาทับ แต่ถ้าไม่มั่นใจและมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจขาดเลือดอยู่แล้ว เช่นเป็นเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดันเลือดสูงอยู่เดิม ก็ควรรีบไปพบแพทย์ค่ะ
โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด, โรคหลอดเลือดหัวใจ, diary doctor is me, สิ่งที่คุณอาจไม่รู้ แต่หมออยากให้คุณรู้

การรักษาทางการแพทย์ส่วนใหญ่ถ้าตรวจคลื่นหัวใจ และผลเลือดยืนยันว่าเป็นโรคนี้จริงก็จะต้องนอนโรงพยาบาล ได้ยาทางหลอดเลือดดำ หรือต้องเข้าห้องผ่าตัด เพื่อทำการใส่สายสวนฉีดสี และทำบอลลูนเส้นเลือด ถามว่า"ฉีดสี และบอลลูนเส้นเลือด" คืออะไร??? อธิบายง่ายๆคือเหมือนเวลาท่อตันแล้วต้องทะลวงท่อค่ะ ทางการแพทย์เราจะสอดสายลวดเล็กๆไปตามหลอดเลือดโดยเข้าทางหลอดเลือดที่ขา สายลวดที่ว่านี้จะมีลูกโป่งที่หุบอยู่ตรงปลาย เมื่อไปถึงส่วนที่ตีบแล้วก็จะกางบอลลูนออกเพื่อทะลวงให้เส้นเลือดนั้นโล่ง หายจากการตีบค่ะ แต่อย่างไรก็ตามคนที่จะได้ทำสอดสายสวนเส้นเลือดหัวใจเนี๊ยจะต้องเป็นรายที่เข้าข่ายทำได้ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษานะคะ

ป้องกันยังไง 
ฟังดูแล้วน่ากลัว ถ้าไม่อยากเป็นก็ อย่ากินอาหารมันๆ หรืออาหารไขมันสูง หรืออาหารที่มีน้ำตาลสูงๆ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ถ้าอายุมากกว่า 35 ปี ควรตรวจเลือดประจำปีทุกปี และถ้าเป็นเบาหวาน ความดันเลือดสูง หรือไขมันสูง ก็ควรกินยาควบคุมโรคอย่างสม่ำเสมอค่ะ

ป้องกันดีกว่าแก้ แย่แล้วแก้ไม่ทันค่ะทุกท่าน สวัสดีค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คิดยังไง บอกหมอได้ค่ะ