วันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ใส่คอนแทคเลนส์ ต้องรู้

คอนแทคเลนส์ (Contact lens) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่มีสายตาสั้น แต่ไม่อยากใส่แว่น มาบดบังความสวยความหล่อของตัวเอง แถมตอนนี้ยังมีคอนแทคเลนส์ตาโต (Big eye) สำหรับคนที่ต้องการ"ความแบ๊ว"เป็นพิเศษอีกด้วย อย่างไรก็ตามอย่าลืมดูแลสุขภาพตาของเราด้วย มีหลายอย่างที่"ต้องรู้" ถ้าคิดจะใส่คอนแทคเลนส์ อย่างปลอดภัย มาอ่านกันค่ะ

ติดเชื้อ!!
ภัยร้ายที่พบได้บ่อยที่สุดจากการใส่คอนแทคเลนส์ก็คือการติดเชื้อที่กระจกตา เปรียบเทียบดวงตาของเราเหมือนกับกล้องถ่ายรูป ไม่ใช่ดิจิตอลธรรมดานะคะ แต่เป็นกล้องถ่ายรูปแบบโปร(Pro) เลยทีเดียว มีสามารถบันทึกรายละเอียด และปรับโฟกัสได้ชั้นเยี่ยม ความใสของกระจก และเลนส์ของกล้องก็สำคัญเหมือนกับความใสของกระจก และเลนส์ตาของเรา ขออธิบายก่อน กระจกตา = บริเวณตาดำของเรา ส่วนเลนส์ตา = วงดำๆ ตรงกลางตาดำของเรา ลองจ้องหน้ากระจกดูนะคะ ในตาดำของเราจะมีวงที่ดำกว่าอีกวงอยู่ตรงกลาง ถ้าฝรั่งตาสีฟ้าก็จะเห็นเลนส์ตาเป็นสีดำๆอยู่ตรงกลางตาสีฟ้า ความจริงแล้วทั้งเลนส์ตาและกระจกตาไม่ได้เป็นสีดำนะคะ แต่ว่าใสเหมือนกับเลนส์กล้องถ่ายรูปเลย เพียงแต่ว่าส่วนที่อยู่หลังต่อกระจกและเลนส์นั้นเป็นสีดำ เราก็เลยเห็นเหมือนกับว่ากระจกตา และเลนส์ตาของเราเป็นสีดำค่ะ

รู้มั๊ยค่ะว่าการที่กระจกตา  และเลนส์ตาของเราใสได้เนี๊ย ต้องอาศัยความสมดุลของการทำงานของเซลล์ และสารน้ำต่างๆในตาของเรา ถ้าเกิดมีตรงไหนที่ผิดปกติไปก็ทำให้ทางเดินของแสงที่เข้าสู่ตาเราขุ่นไป ก็จะมองไม่ชัด เหมือนมองผ่านกระจกฝ้าตลอดเวลา

contact lens, คอนแทคเลนส์, diary doctor is me, สิ่งที่คุณอาจไม่รู้ แต่หมออยากให้คุณรู้
พูดเรื่องดวงตาไปเยอะ ก็แค่อยากให้เห็นว่าการมองเห็นมีความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งนะคะ ความสวยงามเป็นอันดับรอง ดังนั้นเราต้องใส่ใจเพื่อให้เราใช้คอนแทคเลนส์อย่างปลอดภัยต่อดวงตาของเราค่ะ

การติดเชื้อจากคอนแทคเลนส์ ส่วนใหญ่ก็เกิดมาจากคอนแทคเลนส์ที่ไม่สะอาดนั่นแหล่ะค่ะ การล้างคอนแทคเลนส์จึงเป็นสิ่งสำคัญ เราควรแช่คอนแทคเลนส์ในน้ำยาที่ทำมาสำหรับคอนแทคเลนส์เท่านั้น และแช่ไว้นานพอที่แนะนำไว้บนขวด น้ำยาคอนแทคเลนส์เหล่านี้สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ ต่อเมื่อแช่ไว้นานพอค่ะ

นอกจากนั้นก็ไม่ควรใช้น้ำยานั้นซ้ำ ควรเปลี่ยนทุกครั้งที่ล้างคอนแทคเลนส์ เพราะถ้าเราแช่ไปแล้วรอบหนึ่งประสิทธิภาพของมันจะหมดไปค่ะ อีกสิ่งหนึ่งที่ควรเปลี่ยนด้วยคือ "กล่องใส่คอนแทคเลนส์" ควรเปลี่ยนใหม่ทุก 3- 6 เดือนด้วยเหมือนกันนะคะ

ใส่คอนแทคเลนส์ว่ายน้ำ??
ในน้ำ ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ น้ำจืดน้ำเค็ม ทะเล น้ำตก ทะเลสาบ เขื่อน ล้วนแต่มีเชื้อโรคอยู่ทั้งนั้น แม้ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำที่ผสมคลอรีนแล้วก็ตาม เวลาที่ดวงตาที่มีคอนแทคเลนส์ ลงไปสัมผัสกับน้ำ จะทำให้มีน้ำเข้าไปขังอยู่ในช่องว่างระหว่างตาของเรากับคอนแทคเลนส์ ตรงนี้แหละค่ะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดี พอเราขึ้นจากน้ำ ไปอาบน้ำแต่งต้ว อาจจะไปปาร์ตี้ กินข้าว ต่อตอนเย็น กว่าจะได้ถอดคอนแทคเลนส์ก็เข้านอน เชื้อโรคที่ไปนอนสบายอยู่ระหว่างตาของเรากับคอนแทคเลนส์ก็จะเริ่มออกหากิน ทำให้กระจกตาของเราเป็นแผล และขุ่นได้ เราก็จะมีอาการตาแดง แสบตา ปวดตา สู้แสงไม่ได้ เคืองตา มีน้ำตาไหลมาก ขี้ตามาก จุดนี้ก็คงต้องไปหาหมอตาแล้วหล่ะค่ะ

ใส่คอนแทคเลนส์นอน??
ส่วนต่างๆของร่างกายเราต้องการอาหาร ปกติแล้วทุกส่วนบนร่างกายของเราจะมีเส้นเลือดไปหล่อเลี้ยง คอยส่งน้ำ ส่งอาหาร และออกซิเจนให้กับอวัยวะต่างๆของเรา แต่กระจกตาของเราเป็นอวัยวะที่ไม่มีเส้นเลือดมาเลี้ยง ทั้งๆที่มันก็มีชีวิต ต้องการสารอาหารและก๊าซออกซิเจนเหมือนกับอวัยวะอื่นๆ แต่ที่มันไม่มีเส้นเลือดมาเลี้ยงเพราะว่าต้องการคงความใสของมันไว้ คำถามคือแล้วกระจกตาเอาอาหารมาจากไหน คำตอบคือ จาก"น้ำตา"ที่เคลือบผิวกระจกตา ความจริงแม้เราไม่ร้องไห้ ตาของเราก็มีน้ำตามาหล่อเลี้ยงอยู่ตลอดเวลาทุกครั้งที่เรากระพริบตา ไม่เชื่อลองบังคับตัวเองไม่ให้กระพริบตาซัก 1 นาทีซิค่ะ ตาจะแห้งทนไม่ไหวเลยทีเดียว

ก๊าซออกซิเจนในอากาศละลายลงในน้ำตา แล้วกระจกตาก็ค่อยเอาไปใช้ แต่พอเราใส่คอนแทคเลนส์ปั๊บ ทีนี้น้ำตาที่อยู่ตรงกระจกตาก็ไม่สัมผัสกับอากาศ เรียกว่าเลนส์ตาก็เกิดการขาดอากาศหายใจ (เริ่มน่ากลัว) แต่ที่เราใส่คอนแทคเลนส์กันแล้วไม่เป็นอะไรเพราะว่าเรามีการ"กระพริบตา" ช่วยไล่เอาน้ำตาเก่าใต้คอนแทคเลนส์ออก ให้น้ำตาใหม่ที่สัมผัสกับอากาศแล้วเข้ามาแทนที่ (เฮ่อ รอดไป)

แต่ !! ปัญหาคือ การที่เราใส่คอนแทคเลนส์ตอนนอนเนี๊ย เรา"ไม่กระพริบตา" ดังนั้นมีความเป็นไปได้มากที่กระจกตาของเราจะขาดอากาศหายใจ ถ้าเราใส่คอนแทคเลนส์ตอนเรานอน ทำให้เลนส์ตาของเราขุ่นขึ้นได้ ก็เลยเป็นที่มาว่าเราไม่แนะนำให้ใส่คอนแทคเลนส์เวลานอนค่ะ

สุดท้าย ถึงแม้ว่าเราจะมีการกระพริบตาอยู่ตลอด แต่เวลาใส่คอนแทคเลนส์ ก็ยังทำให้กระจกตาได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอได้ ควรพักด้วยการใส่แว่นบ้างบางวัน เพื่อให้กระจกตาของเราได้พักบ้างค่ะ

ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ถึงจะเป็นแค่หน้าต่าง แต่ก็ต้องการการดูแลนะคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คิดยังไง บอกหมอได้ค่ะ