วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ถูกหมากัดแล้ว ไม่แคล้วต้องโดนฉีดยา

วันนี้ชื่อหัวข้ออาจจะดูเป็นภาษาโบราณไปนิดหน่อย แต่ความจริงก็เป็นอย่างงั้นจริงๆนะคะ (T.T) เวลาที่เราถูกสุนัขกัด หรือบางคนแม้แต่ถูกน้้ำลายของมัน ก็เริ่มมีความสงสัยขึ้นมาว่า เราจะติดโรคพิษสุนัขบ้ามั๊ยนะ ดีแล้วค่ะที่สงสัย โรคพิษสุนัขบ้าในปัจจุบัน ยังไม่มีการรักษา เรียกว่าถ้าติดขึ้นมาแล้ว ก็ยังไม่มีใครรอดตายได้เลยนะคะ เพราะฉะนั้น ถ้าไม่แน่ใจ ไปพบแพทย์ไว้ก่อนก็ไม่เสียหายค่ะ
วัคซีนพิษสุนัขบ้า, ถูกสุนัขกัด, ถูกหมากัดทำไง, diary doctor is me, สิ่งที่คุณไม่รู้ แต่หมอ อยากให้คุณรู้


สำหรับกรณีที่ปลอดภัยหายห่วง ไม่ต้องฉีดวัคซีนแน่นอนคือ การถูกน้ำลาย หรือเลือดของสุนัข (ความจริงรวมสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิดนะคะ ทั้งแมว หนู กระรอก) โดยที่บริเวณที่ถูกนั้น"ไม่มี"แผล เป็นผิวหนังปกติของเรา แบบนี้ถือว่าปลอดภัยหายห่วง แผลที่ว่านี้คือแผลเปิดนะคะ ทดสอบง่ายๆก็เอาแอลกอฮอล์เช็ดดู ถ้าแสบ ก็แสดงว่ายังมีแผลเปิดอยู่

ทีนี้ถ้าเกิดว่าถูกกัดจริงๆ มีแผลเปิดแล้ว ก็คงต้องมีการฉีดวัคซีนแน่นอน โดยที่ยาที่จะฉีดนี้ก็มีหลายแบบ บางคนคงเคยได้ยินมาทั้งฉีดรอบสะดือบ้าง ฉีดรอบแผลบ้าง ทำเอาหลายคนเข็ดไปตามๆกัน แต่บางคนก็แค่ฉีดที่ต้นแขน ความจริงแล้วจะได้ฉีดยาแบบไหน มีหลักการอยู่ ดังจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ค่ะ

วัคซีนมีแบบไหนบ้าง
วัคซีนสำหรับโรคพิษสุนัขบ้ามี 2 แบบ คือแบบที่"ออกฤทธิ์ทันที" และแบบที่"กระตุ้น"ให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน แบบออกฤทธิ์ทันทีมีข้อดีคือออกฤทธิ์เร็ว แต่ฤทธิ์อยู่ไม่นาน ส่วนแบบที่กระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันข้อดีคืออยู่นาน ถาวร แต่ข้อเสียคือออกฤทธิ์ช้า ทุกคนที่ได้ฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้า จะได้ฉีดแบบที่กระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน  แต่จะต้องฉีดแบบออกฤทธิ์ทันทีหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับลักษณะของแผล

แล้วแผลสุนัขกัด มีแบบไหนบ้าง
แบ่งเป็น 3 แบบ แบบแรกคือไม่มีแผล (งงจริง แผลแบบแรกคือไม่มีแผล???) ก็คือหมายถึงแบบที่ไม่ต้องฉีดวัคซีน ที่ได้เล่าไปแล้วตอนแรกค่ะ แบบที่สองคือแบบเลือดไหลซิบๆ ไม่ได้ไหลออกมาเป็นหยดๆ แบบที่สามคือ เลือดไหลเรียกว่าอาบเลยทีเดียว บางทีก็เป็นรอยเขี้ยวลึกๆ

ถ้าเป็นแผลแบบแรก ก็ไม่ต้องฉีดยาอะไร สบายใจได้

แต่ถ้าเป็นแผลแบบที่สอง ต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน ก็คือวัคซีนฉีดที่ต้นแขน ต้องฉีดทั้งหมด 5 เข็ม แบ่งเป็นวันละ 1 เข็ม 5 วัน คือวันแรกและวันที่ 3, 7, 14, 28 นับจากวันที่มาเริ่มฉีดวัคซีน บางที่อาจจะฉีด บางวัน 2 ที่ก็ได้ ก็จะเป็นอีกสูตรหนึ่ง ซึ่งจะฉีดหลายที่ และใช้ปริมาณยาน้อยกว่า แต่ก็ได้ผลเท่ากันค่ะ

แต่ถ้าเป็นแผลแบบที่สาม ต้องฉีดทั้งแบบกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันเหมือนแผลแบบที่สอง และเพิ่มวัคซีนแบบออกฤทธิ์ทันทีด้วย อันนี้แหละค่ะที่ทำเอาหลายคนเข็ดไปตามๆกันเพราะ วัคซีนที่เพิ่มมานี้มีปริมาณตามน้ำหนักตัว และต้องฉีด"รอบแผล" !!! แผลเล็กก็รอดตัว แต่ถ้าแผลใหญ่หล่ะก็ น้ำตาเล็ดกันเลยทีเดียวค่ะ (แต่คงต้องอดทนนะคะ จำไว้ว่าโรคนี้ถ้าติด ไม่มีทางรักษาค่ะ) 

แล้วถ้าเคยฉีดวัคซีนแล้วหล่ะ
บางคนก็สงสัยว่า ถ้าเลี้ยงหมาอยู่ แล้วก็โดนกัดบ่อยๆ ไม่ต้องฉีดจนตัวพรุนเลยเหรอ!!  คำตอบคือถ้าเคยฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าแบบที่กระตุ้นร่างกายให้สร้างภูมิคุ้มกันแล้ว และต้องฉีดจนครบ 5 ครั้งนะคะ ขอย้ำว่า "ครบ" 5 เข็มแล้ว ถ้าโดนกัดอีกเราก็ฉีดแค่แบบกระตุ้นก็พอค่ะ (เฮ่อ...รอดแล้ว) ก็คือวัคซีนที่ฉีดที่ต้นแขนค่ะ ถ้าครั้งก่อนที่เราฉีดวัคซีน ยังไม่เกิน  6 เดือนก็ฉีดกระตุ้นแค่เข็มเดียว แต่ถ้าเกิน 6 เดือนแล้วต้องฉีดวันนี้ และ อีก 3 วันฉีดอีก 1 เข็ม ก็เป็นอันเสร็จพิธีค่ะ

แล้วเรื่องตัดหัวหมาไปตรวจหล่ะ ทำกันจริงๆรึเปล่า
คำตอบคือจะไปทำก็ได้ค่ะ แต่ส่วนใหญ่เราก็ไม่ค่อยทำกัน สงสารมัน ยิ่งถ้าเป็นสุนัขเลี้ยงสวยๆ มีสกุล น่ารักน่ากอด เราก็คงทำไม่ลง จริงมั๊ยค่ะ ทั้งหมดที่ได้เล่าไปเป็นกรณีที่เราคิดว่าสุนัขที่กัดเรา "น่าจะมี" เชื้ออยู่ คือกรณีที่โชคร้ายที่สุด ถ้าสุนัขที่กัดเราเป็นสุนัขจรจัด ของใครไม่รู้ เราก็ไปฉีดวัคซีนตามที่ได้เล่ามา แต่ถ้าเกิดว่ามันเป็นสุนัขที่เราเลี้ยงเอง หรือคนรู้จักของเราเลี้ยง สบายดีมาตลอด และฉีดวัคซีนติดต่อกันอย่างน้อย 2 ปี (ต้องมีครบตามที่บอกนะคะ) เราก็มีทางเลือกคือ ดูอาการของมัน 10 วัน ถ้าเกิดว่ามันยังสบายดี น่ารักเหมือนเดิม  เราก็ไม่ต้องไปฉีดวัคซีนต่อก็ได้ค่ะ (ก็จะไม่ต้องไปฉีดวันที่ 14 , 28  รอดไปสองเข็ม เย้!!)

แต่ถ้าถามความเห็นหมอนะคะ ไหนๆก็ฉีดไปแล้ว 3 เข็ม ก็ฉีด อีก 2 เพื่อได้ภูมิคุ้มกันตลอดชีวิต หลังจากนี้ถ้าโดนกัดอีกก็ฉีดแค่เข็มกระตุ้น จะดีกว่านะคะ ไม่อย่างงั้นเกิดครั้งหน้าโดนกัดเป็นแผลลึกๆ ก็ต้องฉีดรอบแผลอีก ลำบากตอนนี้สบายวันหน้าค่ะ

นอกจากฉีดวัคซีน ต้องทำอะไรอีกมั๊ย
การทำความสะอาดแผล หลังถูกกัดก็ควรล้างด้วยน้ำสบู่ให้สะอาดที่สุด ทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์ หรือเบตาดีน แล้วมาทำแผลที่โรงพยาบาลอีกที นอกจากนั้นในน้ำลายของสุนัขมีทั้งเชื้อโรคสารพัด ก็ต้องรับประทานยาฆ่าเชื้อ และยังต้องฉีดยาเพิ่มอีก 1 อย่างนะคะ(ขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่กลัวเข็มทั้งหลาย) เป็นวัคซีนบาดทะยักค่้ะ ถ้าเข็มสุดท้ายที่เคยฉีด เกิน 5 ปีขึ้นไป ก็ฉีดแค่กระตุ้นภูมิคุ้มกัน เข็มเดียวค่ะ

Love me, Love my dog แล้วก็อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยนะคะ (เกี่ยวกันยังไง 555) สวัสดีค่ะ



3 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ อ่านแล้วได้ความรู้ขึ้นเยอะ คุณหมอเขียนได้น่ารักดีด้วยค่ะ ลำดับเรื่องเข้าใจง่าย อยากให้เขียนอีกเรื่อยๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ และขอบคุณอีกครั้งค่ะ

    ตอบลบ
  2. โดนกัดมา10วันแล้วไปหาหมอหมอไม่ฉีดยาอะไรให้เลยวันนี้15วันแล้วยังไม่หายกังวลเลย
    ยาบาดทะยักก็ไม่ฉีด

    ตอบลบ
  3. แล้วถ้าเราโดนสุนัขกัดมาแล้วครั้งนึงแล้วฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้ว5เข็ม แล้วผ่านไปสามเดือนเราโดนกัดอีกเราต้องไปฉีดวัคซีนอีกมั้ยคะ สุนัขคือสุนัขที่เราเลี้ยงเองและฉีดวัคซีนแล้ว

    ตอบลบ

คิดยังไง บอกหมอได้ค่ะ